เพื่อความปลอดภัยของชีวิตและทรัพย์สินทุกท่านจึงควรรู้วิธีใช้ปลั๊กพ่วงอย่างถูกต้องด้วยวิธีเหล่านี้
1.ไม่ควรเสียบปลั๊กเครื่องใช้ไฟฟ้าเต็มปลั๊กพ่วงทุกช่องหรือเสียบติดกัน เพราะเสี่ยงทำให้เกิดไฟฟ้าลัดวงจรจากความร้อนสูงสะสมในสายไฟ
2.หลีกเลี่ยงการเสียบปลั๊กเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ใช้กำลังไฟมากพร้อมกัน เช่น เตารีด(กำลังไฟ 430-1,600 วัตต์) กระติกน้ำร้อน(กำลังไฟ 300-600 วัตต์) ไมโครเวฟ(กำลังไฟ 300-1,500 วัตต์) เพราะเป็นการใช้งานเกิดขนาดพิกัดทำให้เกิดความเสี่ยงไฟฟ้าลัดวงจรได้ เพื่อความปลอดภัยจึงควรใช้ปลั๊กพ่วงกับเครื่องใช้ไฟฟ้าลกำลังไฟน้อย เช่น พัดลมตั้งพื้น โทรทัศน์ คอมพิวเตอร์หรือควรแยกนำเครื่องใช้ไฟฟ้าใช้กำลังวัตต์สูงไปเสียบเต้ารับปลั๊กถาวรแทน
3.ถอดปลั๊กเมื่อไม่ใช้งาน บ่อยครั้งมักมีข่าวเพลิงไหม้ที่มีสาเหตุเกิดจากไฟฟ้าลัดวงจรซึ่งมาจากการเสียบปลั๊กไฟไว้นานหลายวันโดยที่เจ้าของบ้านไม่อยู่หรือหลงลืม ด้วยเหตุผลนี้เพื่อความปลอดภัยลดความเสี่ยงทำ ให้เกิดเพลิงไหม้จึงควรถอดปลั๊กเครื่องใช้ไฟฟ้าทุกชนิด โดยเฉพาะเมื่อไม่ใช้งานเครื่องใช้ไฟฟ้ากำลังวัตต์สูง เช่น เตารีด เตาโมโครเวฟ โคมไฟส่องสว่างบนหิ้งพระ
4.ไม่ควรใช้งานปลั๊กไฟเสื่อมสภาพ เช่น ปลั๊กที่มีรอยไหม้ สายไฟขาด ปลั๊กหลวม มีรอยแตกร้าว ปลั๊กเก่าหรือหมดอายุ เพราะปลั๊กไฟเสื่อมสภาพเหล่านี้หากใช้งานต่อมีความเสี่ยงเกิดไฟฟ้าลัดวงจร สร้างความเสียหายให้ระบบไฟฟ้าภายในบ้านและเสี่ยงไฟฟ้าดูดขณะใช้งานอันตรายถึงชีวิต
นอกจาก 4 เรื่องข้างต้น เพื่อป้องกันอันตรายจากการใช้ปลั๊กไฟพ่วงควรเลือกซื้อปลั๊กที่มีเครื่องหมายมอก. หรือผ่านมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม เป็นสินค้าผลิตจากวัสดุมีคุณภาพ ยกตัวอย่างปลั๊กทำจากพลาสติก PVC ทนทานต่อความร้อนช่วยลดความเสี่ยงไฟไหม้และมีความปลอดภัยสูง
เหล่านี้เป็นวิธีใช้ปลั๊กไฟพ่วงอย่างปลอดภัยที่ช่วยป้องกันการเกิดไฟฟ้าลัดวงจรและเพลิงไหม้ได้ ท่านใดใช้ปลั๊กไฟพ่วงโดยไม่เคยตรวจเช็กสภาพหรือใช้งานผิดวิธีมาตลอด เมื่อทราบถึงการใช้งานที่ถูกต้องแล้วควรใช้ปลั๊กไฟอย่างถูกวิธี ง่าย ๆ เริ่มต้นจาก 4 เรื่องที่นำมาแนะนำ เพียงเท่านี้ก็ช่วยสร้างความปลอดภัยในการใช้ปลั๊กไฟป้องกันการเกิดเพลิงไหม้หรืออุบัติเหตุต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นจากไฟฟ้าลัดวงจรภายในบ้านหรือสำนักงานท่านได้แล้ว